อุปกรณ์แก๊สในระบบ DLM ของ Prins เพื่อช่วยตอบสนองความคล่องตัว
มาทำความรู้จักอุปกรณ์ในระบบ DLM – Direct LiqiMax กันหน่อยครับว่า ระบบที่ หงษ์ทอง ออโต้แก๊ส นำมาเสนอและติดตั้งให้กับลูกค้าระบบนี้นั้นมีคุณภาพมากแค่ไหน นอกจากระบบการจ่ายแก๊สที่แตกต่างจากระบบเดิมๆ แล้ว อุปกรณ์ของระบบ DLM ก็แตกต่างไปจากเดิมด้วย และไม่เพียงแค่ความแตกต่าง คุณภาพก็เหนือกว่าในขั้นที่เรียกได้ว่าทุกชั้นถูกออกแบบและนำมาใช้งานแบบโอเวอร์สเป็ก (Over Spec) ทั้งสิ้น อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบด้วย…
- LPG Turbine Pump
- Prins Pump Driver
- Pressure Sensor
- Fuel Supply Unit (FSU)
- High Pressure Pump (HPP)
- Fuel Lines
- Direct LiquiMax AFC
- Prins Switch
- ถังแก๊ส
ในการทำงานของระบบ DLM สามารถที่จะใช้แก๊สได้ 100% ตั้งแต่ตอนที่สตาร์ทเครื่องยนต์ ไม่จำเป็นที่จะต้องสตาร์ทด้วยน้ำมันก่อนเหมือนกับระบบแก๊สทั่วๆ ไป การที่ระบบ DLM ได้รับการออกแบบให้มีความแตกต่างจากระบบแก๊สทั่วไป เนื่องจากระบบ DLM ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อติดตั้งกับเครื่องยนต์ทั่วๆ ไป แต่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อติดตั้งกับเครื่องยนต์ที่เป็นระบบฉีดตรงหรือเครื่องยนต์ GDI โดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันว่าเครื่องยนต์ GDI นั้นไม่สามารถที่จะติดตั้งแก๊สที่เป็นระบบแบบเดิมๆ ที่ติดตั้งในเครื่องยนต์ทั่วไปได้ เนื่องจากหัวฉีดของเครื่องยนต์ GDI จะถูกติดตั้งอยู่ในห้องเผาไหม้ หากใช้แก๊สซึ่งมีสถานะที่เป็นไอและมีอุณหภูมิสูง จะทำให้หัวฉีดร้อนเกินไปจนเกิดความเสียหายได้ แต่กับระบบ DLM จะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว เพราะระบบจะจ่ายแก๊สในสถานะที่เป็นของเหลว 100% ซึ่งช่วยควบคุมอุณหภูมิของหัวฉีด อีกทั้งการฉีดด้วยแรงดันที่สูงเหมือนกับการฉีดของน้ำมันทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะการทำงานที่ไม่ต่างจากการใช้น้ำมันเลย
– LPG Turbine Pump > ปั๊มตัวนี้ทำหน้าที่ดูดเชื้องเพลิงแก๊สจากถังเพื่อจ่ายเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะแตกต่างปั๊มในระบบแก๊สทั่วๆ ไป ทั้งเรื่องของการติดตั้งและคุณสมบัติ ปั๊มตัวนี้จะติดตั้งอยู่ภายในถังเหมือนกับปั๊มของน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์ วัสดุภายในถูกออกแบบให้ใช้กับแก๊ส LPG โดยเฉพาะ ทำจากเซรามิค ภายในตัวปั๊มมีกรองละเอียดที่ไม่ต้องเปลี่ยนเลยตลอดอายุการใช้งาน สามารถดูดแก๊สเข้าสู่ระบบได้โดยที่ไม่เกิดฟองอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในระบบ DLM การทดลองในแล็ปปั๊มตัวนี้สามารถใช้งานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง หรือประมาณ 500,000 กิโลเมตร แต่จากการทดสอบในการใช้งานจริงสามารถใช้งานได้ถึง 1,000,000 กิโลเมตรโดยที่ปั๊มตัวนี้ไม่เสีย
– Prins Pump Driver > ภายใน LPG Turbine Pump จะมีอุปกรณ์อีกตัวที่สำคัญคือ Prins Pump Driver ทำหน้าที่สร้างแรงดันตามอัตราการฉีดให้สัมพันธ์กับรอบของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะขับที่ความเร็วเท่าไร มีการเหยียบคันเร่งมากน้อยเพียงใด แก๊สในระบบก็จะถูกจ่ายด้วยแรงดันที่คงที่และสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับการจ่ายเชื้อเพลิงในระบบน้ำมัน
– Boost Pump > อุปกรณ์ตัวนี้ถือว่า ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ซึ่งมีหน้าที่หลักกับระบบการจ่ายแก๊ส ไม่ได้ทำงานตลอดเวลาเหมือนกับอุปกรณ์อื่นๆ หน้าที่ของอุปกรณ์ตัวนี้คือ บูสต์น้ำมันเพื่อไล่แก๊สออกจากระบบ ตอนที่ผู้ขับขี่จะเปลี่ยนจากแก๊สเป็นน้ำมัน ซึ่งในการใช้งานจริงระบบนี้สามารถใช้แก๊สได้ 100% แม้กระทั่งตอนสตาร์ท หรือความหมายที่ชัดเจนก็คือ คุณสามารถใช้แก๊สได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
ติดต่อสอบถามรายละเอียด
– Fuel Supply Unit (FSU) > เป็นโซลินนอยด์ที่ทำหน้าที่สลับการจ่ายแก๊สและน้ำมัน เป็นอุปกรณ์ที่่นกลางระหว่างระบบน้ำมันและแก๊ส หากคุณเลือกใช้แก๊สระบบจะกั้นนำ้มันเอาไว้ เพราะแก๊สจะถูกจ่ายไปยังท่อทางเดินน้ำมันเชื้อเพลิงและหัวฉีดเดิมของเครื่องยนต์นั่นเอง
– High Pressure Pump (HPP) > การดูดและจ่ายแก๊สเข้าสู่ระบบของ LPG Turbine Pump จะมีแรงดันอยู่ที่ 10 บาร์ จนเมื่อแก๊สเดินทางมาถึง High Pressure Pump จะถูกสร้างแรงดันให้สูงถึง 170 บาร์ ก่อนที่จะจ่ายแก๊สให้กับหัวฉีดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ เพื่อให้การติดตั้งระบบนี้สามารถใช้งานร่วมกับระบบเดิมของรถได้มากที่สุด แทบจะไม่ต้องยุ่งเกี่ยวใดๆ กับระบบเลย โดยวิศวกรจากต่างประเทศได้วิเคราะห์และทดสอบแล้วว่าสามารถใช้ปั๊มแรงดันสูงหรือ High Pressure Pump ของรถในการสร้างแรงดันให้กับแก๊สได้เลย เท่ากับว่าการสร้างแรงดันของแก๊สใน Ford Focus GDI นั้น ใช้ปั๊มแรงดันสูงตัวเดิมที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ ซึ่งตัว High Pressure Pump และท่อเชื้อเพลิงแรงดันสูงของ Ford Focus GDI มีคุณภาพที่ดีอยู่แล้ว
– Fuse Return Unit (FRU) > ทำหน้าที่ส่งแก๊สที่เหลือในระบบกลับคืนถัง
– Fuel Lines > สำหรับท่อทางเดินแก๊สในระบบ DLM จะใช้ท่อที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์หรือเคฟล่าร์ (ในระบบแก๊สแบบเดิมจะใช้ท่อทองแดง) ซึ่งผ่านการทดสอบมาอย่างดี สามารถทนแรงดันได้ถึง 370 บาร์ แต่จริงๆ แล้วท่อทางเดินแก๊สตัวนี้ที่จะใช้ในระบบ DLM ซึ่งเดินจากถังไปถึงตัว High Pressure Pump มีแรงดันเพียง 10 บาร์ เท่านั้น (ไม่เกิน 25 บาร์) ซึ่งอีกไม่นานท่อตัวนี้จะถูกกำหนดให้ใช้ในเครื่องยนต์ที่ติดตั้งก๊าซ NGV ซึ่งมีแรงดันสูงถึง 200 บาร์ สาเหตุที่ระบบ DLM เลือกใช้ท่อตัวนี้ในช่วงของการเดินทางหรือการจ่ายแก๊สที่มีแรงดันเพียง 10 บาร์ เพราะต้องการให้ระบบมีความปลอดภัยสูงสุด อีกทั้งลักษณะข้อต่อของท่อชนิดนี้ไม่ได้เป็นแบบข้องอทั่วไป แต่เป็นหัวต่อที่ต้องใช้แหวนรองและแหวนกันคลายพร้อมกับขันน็อตยึดโดยมีแรงดันในการขันที่ได้มาตรฐานตามกำหนดอยู่ที่ 10 นิวตัน-เมตร เท่ากันทุกจุด
นอกจากนั้นท่อที่นำมาใช้นี้ยังได้ผ่านการทดสอบการชนมาแล้ว โดยทดสอบว่าหากรถยนต์มีอุบัติเหตุท่อตัวนี้มีโอกาสที่จะได้รับผลจากการชนลักษณะใดบ้าง และจะส่งผลใดกับท่อตัวนี้บ้าง เช่น ตัวท่อจะแตกหรือไม่ หรือข้อต่อจะหักหรือไม่ ซึ่งผลทดสอบออกมาแล้วว่าท่อตัวนี้สามารถทนต่อแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี และอีกไม่นานนี้ในต่างประเทศจะใช้ท่อชนิดนี้ในการติดตั้งระบบเชื้อเพลิงในรถยนต์ทั้งหมด
– Pressure Sensor ทำหน้าที่ตรวจจับแรงดันของระบบแก๊สและแจ้งให้กล่อง ECU ทราบถึงถึงสภาวะการจ่ายเชื้อเพลิงอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ระบบมีความเสถียรและจ่ายแก๊สได้อย่างแม่นยำ
– Direct LiquiMax AFC > หรือกล่อง ECU ของระบบ DLM หรือระบบแก๊สนั่นเอง กล่องตัวนี้สามารถต่อกับ OBD (On Board Diagnostics) หรือเครื่องมือวิเคราะห์ปัญหาของรถยนต์ เพื่อดูข้อมูลทุกอย่างของรถได้ ความพิเศษของกล่อง ECU ตัวนี้คือ มันสามารถอ่านค่าการทำงานกล่อง ECU ของเครื่องยนต์ได้ว่ามีการฉีดเชื้อเพลิงอย่างไร ปริมาณเท่าไร แล้วนำค่านั้นมาประมวลผลเพื่อใช้ควบคุมการจ่ายแก๊ส ดังนั้นเครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 100% แน่นอน เพราะเครื่องยนต์จะไม่รู้เลยว่าเชื้อเพลิงที่จ่ายให้นั้นเป็นน้ำมันหรือแก๊ส
– Prins Switch > เป็นสวิชต์ควบคุมการใช้แก๊สและมาตรวัดบอกระดับของปริมาณแก๊สในถัง นอกจากความแม่นยำที่สามารถบอกระดับปริมาณของแก๊สในถังได้อย่างถูกต้องแล้ว ความพิเศษของมันอีกอย่างคือ สามารถเปลี่ยนสีได้ เจ้าของสามารถเลือกสีได้เลย สีอะไรก็ได้เพื่อให้เข้ากับคอนโซลหรือมาตรวัดของรถยนต์ หรือจะเลือกสีที่ตัวเองชอบก็ได้
– ถังแก๊ส > เป็นถังแก๊สคุณภาพสูงที่ผ่านการทดสอบมาอย่างดี มีความแข็งแรงทนทาน และมีความจุเพิ่มขึ้น
วิดีโอแนะนำการติดแก๊ส DLM ในรถรุ่นต่างๆ
“Prins” ผู้นำนวัตกรรมติดตั้งแก๊ส LPG เครื่องยนต์ Direct Injection อันดับหนึ่งของโลก
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ
- ศูนย์บริการมาตรฐานเทียบเท่าศูนย์รถยนต์
- มาตรฐานการติดตั้งระดับสูง ด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ
- บริการหลังการขาย (After Service) แบบมืออาชีพ มั่นใจในบริการของเราได้
- คำนึงถึงปลอดภัยสูงสุด เราเลือกใช้อุปกรณ์ที่ตรวจสอบแล้ว มีคุณภาพและปลอดภัย
- ค่าบริการที่คุ้มค่า มาตรฐานบริการ ลดค่าเชื้อเพลิง (สามารถนำเงินส่วนต่างที่เหลือ ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้มากขึ้น)
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- รีวิว Nissan X-Trail 2.0 ติดแก๊ส Prins DLM หงษ์ทองแก๊ส
- ติดแก๊ส Prins DLM 3.0 เวอร์ชั่นใหม่อัพเกรดอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้น