บอกลาน้ำมันแพง วิธีทำให้ รถดีเซล ประหยัดขึ้น 25-35% NEW REFORMER

บอกลาน้ำมันแพง… วิธีทำให้ “รถดีเซล”

ประหยัดขึ้น 25-35% NEW REFORMER

แน่นอนว่าปัญหาของคนใช้รถทุกวันนี้คือ ราคาน้ำมัน ที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเบนซิน ดีเซล หรือแม้แต่ราคา LPG หนึ่งในปัจจัยที่ซ้ำเติมภาระค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพให้เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ของแพง ค่าแรงเท่าเดิม นับวันยิ่งทำให้เงินในกระเป๋าลดลง จนหลายคนคงต้องรัดเข็มขัด หรือพยายามหาวิธีประหยัดแบบ 360° และหนึ่งในทางเลือกเพื่อประหยัดค่าน้ำมัน ก็คือการนำรถไปติดแก๊ส lpg

ก่อนอื่นต้องบอกว่า การติดตั้งแก๊สรถยนต์ในปัจจุบันแตกต่างกับสมัยมาก เพราะเทคโนโลยีและอุปกรณ์แก๊สทุกวันนี้ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้มีประสิทธิภาพมาตรฐานสูง เพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์ เหมาะกับระบบเครื่องยนต์ของรถรุ่นใหม่ ๆ ทำให้ผู้ใช้รถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ไม่ค่อยเจอปัญหาจุกจิก ไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลใด ๆ กับเครื่องยนต์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการติดตั้ง มาตรฐานอุปกรณ์ และมาตรฐานการปรับจูนของแต่ละร้าน

ทั้งนี้ จากการที่เรายืนเคียงข้างสร้างความประหยัดสูงสุดให้ลูกค้าที่นำรถมาติดแก๊สกว่า 15 ปี ได้มีการเก็บข้อมูล ศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ เพื่อพัฒนาและนำเสนอโซลูชั่นใหม่ ๆ เป็นทางเลือกให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ยิ่งช่วงนี้มีลูกค้าหลายท่านสอบถามเข้ามาเยอะมากว่า “รถดีเซล ติดแก๊สได้ไหม?” คำตอบคือ ติดตั้งได้ครับ แต่อาจไม่คุ้มค่าเท่ารถเบนซิน …เพราะอะไร?

พื้นฐานเครื่องยนต์ของ “รถดีเซล” ข้อดี-ข้อเสีย

ด้วยพื้นฐานการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล แตกต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน โดยในกระบวนการสันดาปภายใน หรือระบบการจุดระเบิดของเครื่องดีเซลจะอาศัยหลักการอัดอากาศ ไม่ได้ใช้หัวเทียนในการจุดระเบิดเหมือนเครื่องยนต์เบนซิน โดยกลวัตรหรือวงจรการทำงาน แบ่งเป็น 4 จังหวะ คือ “ดูด อัด ระเบิด คาย” กล่าวคือ ขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ภายในกระบอกสูบ อากาศจะถูดดูดเข้ามาแล้วบีบอัดจนเกิดแรงดันและความร้อนที่สูงขึ้น เมื่อเจอกับนํ้ามันเชื้อเพลิงที่ถูกฉีดเข้าไปผสม ก็จะเกิดการสันดาปแล้วเกิดเป็นกำลังของเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ดีเซลต่างกับเบนซินอย่างไร NEW REFORMER

ข้อดีของเครื่องยนต์ดีเซล คือทนทาน ทนความร้อนสูง มีพลพกำลังหรือกำลังอัดที่สูงกว่า จึงสามารถสร้างแรงบิดได้ดีกว่าเครื่องยนต์เบนซินแม้ในรอบต่ำ ที่สำคัญดีเซลกินเชื้อเพลิงน้อย หรือประหยัดกว่าเบนซิน เพราะโดยปกติเครื่องยนต์ดีเซลจะใช้สูตรการจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Lean Burn (จูนบาง) หมายถึง จ่ายน้ำมันน้อยกว่าอากาศในห้องเผาไหม้ เช่น มีส่วนผสมอากาศเชื้อเพลิง อยู่ที่ 21:1 (อากาศ 21 ส่วน ผสมกับ เชื้อเพลิง 1 ส่วน) ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน มีส่วนผสมอากาศเชื้อเพลิง อยู่ที่ 14.7:1 หรือ 15.5:1 เป็นต้น

ดังนั้น รถดีเซลส่วนใหญ่ จึงนิยมใช้งานในเชิงพาณิชย์/ภาคขนส่งเป็นหลัก อาทิ รถบัส รถตู้โดยสาร รถกระบะ/ปิกอัพ รถบรรทุก และเหมาะกับการเดินทางไกล สายลุย ที่ต้องการรถสมรรถนะสูง ๆ ทนทาน ช่วยประหยัดน้ำมัน

ระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์ดีเซล

จังหวะดูด – อัด – ระเบิด – คาย

ข้อเสียของเครื่องยนต์ดีเซล ปัญหาหลัก ๆ ทุกวันนี้ที่เห็นคือเรื่อง “มลพิษ” ควันดำ และฝุ่น PM 2.5 ที่ถูกปล่อยออกมากับไอเสีย มากว่ารถเบนซิน โดยมีสาเหตุเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์

นอกจากนั้น กำลังอัดสูงสุดในการเผาไหม้ในห้องเครื่อง ยังสูงเกือบ 2 เท่าของเครื่องยนต์เบนซิน และแรงอัดที่ใช้ก็สูงเช่นกัน ดังนั้น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ต้องเป็นวัสดุที่ทนแรงดันสูงและมีโครงสร้างที่แข็งแรง อีกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลยังมีเสียงค่อยข้างดัง น้ำหนักเยอะ สั่นสะเทือนมากกว่า กลิ่นน้ำมันแรงกว่า และระบบเครื่องยนต์เป็นแบบฉีดเชื้อเพลิงผสม ดังนั้น หัวฉีดของรถดีเซล จึงต้องมีประสิทธิภาพแม่นยำสูง ตลอดจนชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีความละเอียดค่อนข้างมาก หากไม่ค่อยดูแลตรวจเช็คระยะตามรอบอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้มีค่าบำรุงรักษาเพิ่มขึ้น เป็นต้น

ปัญหามลพิษจากไอเสียรถดีเซล ควันดำ ฝุ่น PM2.5

การติดแก๊สในรถดีเซล

ปัจจุบันรถดีเซลมีการติดตั้งแก๊สทั้ง LPG และ CNG (NGV) โดยแบ่งเป็นระบบเชื้อเพลิงเดี่ยว และระบบเชื้อเพลิงร่วม (จ่ายแก๊สร่วมกับน้ำมัน โดยกำหนดสัดส่วนการจ่ายเป็นเปอร์เซ็น %)

การติดแก๊สดีเซลระบบเชื้อเพลิงเดี่ยว คือเป็นการใช้แก๊ส 100% ส่วนใหญ่เราจะมักเห็นในรถขนาดใหญ่ รถบรรทุก รถสิบล้อ รถพ่วง รถหัวลาก โดยเชื้อเพลิงที่เหมาะสมที่สุดจะเป็น NGV ซึ่งวิธีการจะมี 2 รูปแบบคือ นำเข้าเครื่องยนต์ NGV โดยตรงจากต่างประเทศ หรืออีกแบบจะเป็นการดัดแปลงเครื่องยนต์และปรับจูนกำลังอัดให้เหมาะกับการใช้ก๊าซ NGV ส่วนราคาติดตั้งก็ค่อนข้างสูง (เป็นหลักแสน) เพราะต้องใช้ถังแก๊สขนาดใหญ่หลายลูกเพื่อให้เพียงพอกับการใช้งาน แต่ก็จะได้ความประหยัดมากกว่าระบบฉีดร่วม
การติดแก๊สดีเซลระบบเชื้อเพลิงร่วม คือเป็นการใช้เชื้อเพลิงผสมระหว่างน้ำมันดีเซล กับ NGV หรือ LPG โดยฉีดแก๊สเข้าไปผสมแทนที่น้ำมัน และปรับจูนสัดส่วนการจ่ายแก๊สเป็นเปอร์เซ็น % ตามช่วงความเร็วของรถและความเร็วรอบเครื่องยนต์ โดยปกติอัตราส่วนการจ่ายก๊าซร่วมกับน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 15-30% ซึ่งวิธีการนี้ก็สามารถทำให้ประหยัดค่าน้ำมันได้ แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเติมแก๊สเพิ่มอยู่ดี

ดังนั้น สรุปว่าการติดแก๊สในรถดีเซล ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ 15-30% แต่หากคุณใช้งานไม่ถึงวันละ 200-300 กม. ก็อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร ที่สำคัญการแปลงเครื่องยนต์ดีเซล หากทำไม่ถูกวิธีอาจทำให้เครื่องยนตน์เสียหาย ส่วนขั้นตอนในการติดตั้งแก๊สในรถดีเซลจะค่อนข้างมีความยุ่งยากซัและใช้เวลานาน เช่น การต้องปาดฝาสูบ ต้องทำให้กำลังอัดลดลง ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้กำลังของรถดรอปลง บวกกับค่าออกเทนของ NGV/LPG ที่ต่างกับน้ำมัน และน้ำหนักของรถที่ค่อนข้างเยอะ จึงมักเกิดอาการอืด/เร่งไม่ค่อยขึ้น

อย่างไรก็ตาม วิธีแก้จุดอ่อนดังกล่าวที่นิยมกันก็คือ การทำรีแมพ อีซียู (Remap ECU) เพื่อปรับจูนค่าส่วนผสมอากาศเชื้อเพลิงให้เหมาะสม ซึ่งการทำรีแมพของหงษ์ทองแก๊ส เราจะเน้นทำเพื่อให้มีทั้งสมรรถนะที่ดีขึ้นและประหยัดมากขึ้น บนพื้นฐานความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ก็ขึ้นอยู่กับพฤิตกรรมการขับขี่ของแต่ละคน หากเหยียบมากกว่าเดิม สุดท้ายก็เปลืองอยู่ดีครับ

ส่วนใครที่ต้องการทำรีแมพเพียงแค่เพื่อความแรงอย่างเดียว (เน้นซิ่ง ไม่เน้นประหยัด) มีโอกาสทำให้เครื่องยนต์เสียหาย เกิดการสึกหรอ/พังไวขึ้น แถมเสี่ยงอันตราย ไม่เป็นมิตรกับเพื่อนร่วมทาง ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นและควันดำ ทำลายสุขภาพและสิ่งแวดล้อม